ซีรีย์แนวสืบสวนสอบสวนฆาตกรรม ของครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนอย่าง“เลือดข้นคนจาง” ได้สร้างกระแสในโลกออนไลน์อย่างมากโดยจะเห็นเทรนด์ #ใครฆ่าประเสริฐ เกือบทุกวันโดยเฉพาะวันศุกร์และวันเสาร์ที่ซีรีย์ออกอากาศทางช่องวัน พอกระแสมากขึ้นได้ยินทุกวัน คำว่าเลือด เลือด เลยทำให้นึกถึงชื่อสมุนไพรอย่างหนึ่งขึ้นมาได้ นั่นคือ ว่านสบู่เลือด
ว่านสบู่เลือด นั้นมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Stephania venosa (Blume) Spreng โดยจัดเป็นพรรณไม้เลื้อยล้มลุก มีอายุหลายปีและมีรากที่ไว้สะสมอาหาร ถ้าหากว่ามีอายุหลายปีว่านสบู่เลือดจะมีขนาดใหญ่มากบางทีจะพบว่าขนาดเท่าโอ่งมังกรเลยทีเดียว ว่านสบู่เลือดสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ว่านสบู่เลือดตัวผู้และว่านสบู่เลือดตัวเมีย โดยตัวที่มีน้ำยางสีแดงคล้ายเลือดสดจะเป็นว่านสบู่เลือดตัวผู้
ยางสีแดงที่เห็นว่าเป็นเหมือนเลือด ผู้อ่านสามารถพิสูจน์ได้ง่ายมาก โดยผู้อ่านต้องเด็ดใบเพื่อดูสีน้ำของยาง ถ้าไม่มียางสีแดงเหมือนเลือดจะเรียกว่า บอระเพ็ดพุงช้าง ต้องสังเกตระหว่างว่านสบู่เลือดกับบอระเพ็ดพุงช้างให้ดี เพราะทุกวันนี้ว่านสบู่เลือดนับว่าเริ่มจะหายากแล้ว เพราะมีการเก็บออกมาจากป่าใช้เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ก็ยังมีการสนับสนุนให้มีการเพาะขยายพันธุ์ว่านสบู่อยู่แล้ว แต่ว่าว่านสบู่เลือดใช้เวลาหลายปีกว่าจะมีขนาดใหญ่และนำมาใช้งานได้
ส่วนสรรพคุณของว่านสบู่เลือดนั้น จัดเป็นสมุนไพรแก้กษัย ช่วยบำรุงกำลัง ช่วยให้เจริญอาหารในคนที่ผอมแห้ง และยังแก้ประจำเดือนมาไม่ปกติด้วย สำหรับคนที่มีภาวะเลือดจางและคนที่เป็นไมเกรนสามารถกินว่านสบู่เลือดได้ โดยวิธีง่ายที่สุดคือ นำหัวมาต้มกินได้เลย หรือจะหั่นเป็นแว่นๆ แล้วนำไปเป็นวัตถุดิบที่ใส่ในการปรุงอาหารประเภทอื่นๆได้ โดยรสชาติที่ท่านจะสัมผัสได้จากว่านสบู่เลือด คือ มีความมันและรสชาติเฝื่อนในปากเล็กน้อย บทความนี้จึงขอแนะนำเมนูที่สามารถนำว่านสบู่เลือดมาประกอบได้
เมนูที่จะแนะนำคือ สลัดเริงร่า
1. ว่านสบู่เลือดมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 1 ถ้วยตวง
2. กระเจี๊ยบเขียว หั่นเป็นแว่นๆ 7 ฝัก
3. ถั่วแดงนึ่งสุก 2 ช้อนโต๊ะ
4. ผักโขม ½ ถ้วยตวง
5. เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ : นำว่านสบู่เลือด กระเจี๊ยบเขียว ผักโขม ไปลวกจนสุก จากนั้นนำส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดจัดวางเรียงใส่จานให้สวยงามและราดด้วยน้ำสลัดตามชอบสามารถกินได้ทุกเพศทุกวัยหรือจะกินตอนดูซีรีย์เลือดข้นคนจางก็ได้เพราะถือเป็นเมนูที่แคลลอรี่ต่ำ
สรรพคุณที่จะได้จากสลัดเริ่งร่า คือ ว่านสบู่เลือดจะช่วยบำรุงกำลัง บำรุงเลือด ส่วนกระเจี๊ยบเขียวจะช่วยเพิ่มแมกนีเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ช่วยแคลเซียมในการเสริมสร้างกระดูกและช่วยย่อยอาหาร แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้อาการซึมเศร้า ด้วย
สุดท้ายอย่างที่บอกไปแล้วในช่วงแรกว่าในปัจจุบันมีความต้องการใช้ว่านสบู่เลือดเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีการเข้าไปเก็บและเข้าไปหาว่านสบู่เลือดในป่ามากขึ้นเพื่อนำออกมาขาย ทำให้เกิดความเสี่ยงที่ว่านสบู่เลือดจะสูญพันธุ์ไป เมื่อเทียบกับสัดส่วนของข่าวที่มีคนลักลอบนำสมุนไพรออกมาจากป่าเพื่อนำมาขาย ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่จะช่วยกันดูแลและปกป้องว่านสบู่เลือด รวมถึงสมุนไพรอื่นๆให้อยู่คู่ไทยไปนานแสนนาน ไม่ว่าจะเป็นการปลูกจิตสำนึกและช่วยกันขยายพันธุ์ให้แพร่หลาย อย่าให่ว่านสบู่เลือดและสมุนไพรที่ทรงคุณค่าเหล่านี้กลายเป็นเพียงภาพในหนังสือที่เอาไว้สอนลูกหลานของเรา
เครดิตภาพ https://pixabay.com/photo-1813410
เครดิตภาพ thaiforestherb.blogspot.com
หน้าที่เข้าชม | 3,634,228 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,848,149 ครั้ง |
เปิดร้าน | 16 เม.ย. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 27 ส.ค. 2568 |
© ขอสงวนสิทธิ์เนื้อหาในเว็บนี้โดย บริษัท สมุนไพรท่าพระจันทร์ จำกัด ห้ามมิให้นำข้อความ รูปภาพ เนื้อหาใดๆในเว็บไซต์นี้
นำไปตีพิมพ์ หรือเผยแพร่ ก่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเห็นเราจะดำเนินการให้ถึงที่สุด