น้ำผึ้งกับอบเชย กับสรรพคุณในการดูแลสุขภาพ
การใช้สมุนไพรจากธรรมชาติในการดูแลรักษาสุขภาพเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน เนื่องจากมันสามารถใช้รักษาแทนยาแผนปัจจุบันได้ แต่มีผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้ยาน้อยกว่า แม้ว่าบางทีอาจจะดูเหมือนหายช้ากว่าอยู่บ้าง แต่นั่นก็มองได้ว่าเป็นข้อดี ร่างกายค่อยๆ ปรับตัว ให้แข็งแรงขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และไม่ส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานอื่นๆ เหมือนการใช้ยาสังเคราะห์ เป็นการรักษาอย่างที่เรียกว่าแบบสุขุม ปรับสมดุลทั้งร่างกาย...
อย่างไรก็ตามมีหลายคนมีปัญหาอยู่บ้างในการจะใช้สมุนไพรในการดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสูตรยาสมุนไพรจำนวนมาก “ทำยาก” มีส่วนประกอบของสมุนไพรหลายชนิดบางทีก็ไม่รู้ไปหาที่ไหน ที่สำคัญอีกอย่างก็คือ บ่อยครั้งยาสมุนไพรมันมี “รสชาติ” ที่... ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ! ดังนั้นบ่อยครั้งยาสมุนไพรจึงถูกจัดให้เป็นทางเลือกอันดับหลังๆ... แต่นั่นเป็นความเชื่อถือไม่ถูกทั้งหมด ! เพราะยาสมุนไพรที่หวานอร่อยนั้นมันมีอยู่ !! คำว่า หวานเป็นลม ขมเป็นยา ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไปสำหรับยาสมุนไพร และหนึ่งยาสุมนไพรที่อร่อยและดีต่อสุขภาพที่น่าสนใจมากอย่างหนึ่งก็คือ... “น้ำผึ้ง กับ อบเชย” !
หลายคนอาจไม่เชื่อว่าของที่หวานๆ หอมๆ น่ารับประทานไม่ต่างจากขนมหวานของเด็กมันจะมีดีในเรื่องสุขภาพตรงไหนบ้าง เรามาดูกันว่า น้ำผึ้งหวาน อบเชยหอม มันดีอย่างไรและแก้อาการเจ็บป่วยอะไรให้เราได้บ้าง ?
1. รักษาอาการของระบบทางเดินอาหาร การรับประทานน้ำผึ้งผสมผงอบเชยป่น สามารถช่วยการทำงานของระบบทางเดินอาหารให้เป็นปกติได้หลายอาการ เช่น อาหารไม่ย่อย ท้องอืด มีลมในกระเพาะมาก หรือมีแผลในกระเพาะอาหารมีอาการปวดท้อง ฆ่าเชื้อในระบบทางเดินอาหาร และระบบลำไส้
2. รักษาอาการของระบบหลอดเลือดและหัวใจ การรับประทานน้ำผึ้งผสมอบเชยเป็นประจำ สามารถช่วยฟื้นฟูสภาพของเส้นโลหิตได้เป็นอย่างดี สามารถขจัดคลอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ลดความเสี่ยงอาการหัวใจวาย ทำให้หัวใจแข็งแรง ทำให้เส้นเลือดมีความยืดหยุ่น
3. รักษาอาการระบบภูมิคุ้มกัน การรับประทานอบเชยผสมน้ำผึ้งเป็นประจำ ทำให้ร่างกายมีสุขภาพและภูมิต้านที่ดีขึ้นเนื่องมันมีสรรพคุณในการทำลายเชื้อแบคทีเรียและไวรัส นอกจากนี้ยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์กับร่างกายและยังสามารถช่วยให้หายจากอาการเป็นไข้ไม่สบายได้เร็วขึ้นอีกด้วย
4. รักษาแผลภายนอก น้ำผึ้งผสมอบเชยสามารถนำมาใช้ทาแผลฝายนอกได้ด้วย ทั้งแผลสด แผลเรื้อรัง หรือแม้แต่สิว หรือโรคผิวหนัง ก็สามารถใช้ทาเพื่อรักษาได้
นี่เป็นประสิทธิภาพของยาสมุนไพรที่มีรสชาติหวานอร่อย ดังนั้นคำว่า “หวานเป็นลม ขมเป็นยา” จึงไม่แน่เสมอไป
