ใบทุเรียนเทศ ต้านมะเร็ง
ทุเรียนเทศ รักษามะเร็ง
ทุเรียนเทศ กลายเป็นที่สนใจเป็นอย่างมากในปัจจุบันหลังจากมีข่าวว่ามีผู้ป่วยโรคมะเร็งดื่มน้ำต้มใบทุเรียนเทศแล้วสามารถหายจากอาการป่วยได้ ซึ่งเรื่องที่เป็นข่าวฮือฮาแชร์กันในโลกออนไลน์และมีสื่อกระแสหลักอื่นๆ นำเสนอข่าว อย่างไรก็ตาม ยังมีคำถามเกี่ยวกับผลและความน่าเชื่อถือของทุเรียนเทศ ว่าใช้ได้ผลในการรักษาได้จริงหรือไม่อยู่
ทุเรียนเทศคืออะไร ?
ทุเรียนเทศเป็นพืชประเภทไม้ผลในวงศ์เดียวกับน้อยหน่าและกระดังงา ผลมีลักษณะคล้ายลูกทุเรียน คือมีหนามแหลมรอบผล มีเปลือกสีเขียว เนื้อในมีสีขาว มีรสหวานอมเปรี้ยว เนื้อมีลักษณะฉ่ำน้ำ บางทีจึงเรียกว่าทุเรียนน้ำ เป็นพืชที่ขึ้นในเขตร้อน พบทั้งในอเมริกาใต้และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงในประเทศไทย พบได้ในแทบทุกภาค และมีมากในทางภาคใต้ มีชื่อเรียกต่างๆ กันไป ส่วนใหญ่ในประเทศไทยนิยมรับทานผลสด มีการนำเอาผลอ่อนไปทำแกงส้ม หรือนำไปเชื่อมรับประทาน แต่ในต่างประเทศมีการนำไปแปรรูปเป็นของขนมและของหวานอยู่ด้วยเช่นกัน เช่น ในมาเลเซียนิยมนำมาทำเป็นน้ำผลไม้สำหรับดื่ม ในเวียดนามนิยมเอาไปทำน้ำผลไม้ปั่น ในฟิลิปปินส์มีไอศกริมและสมูทตี้ที่ทำจากผลทุเรียนเทศ
ส่วนในเรื่องสรรพคุณทางยาสมุนไพร ของใบทุเรียนเทศ พบว่า ในหมู่เกาะwest Indies ในแถบอเมริกากลาง มีการใช้ใบของทุเรียนเทศเอามาทำเป็นชาสมุนไพร ดื่ม ระงับความเครียด ทำให้จิตใจสงบ ชาวบราซิลใช้ทำชาสมุนไพร รักษาอาการโรคข้อ แก้นอนไม่หลับและโรคกระเพาะ แก้เบาหวานและความดันโลหิตสูง ลดอาการอักเสบ
สำหรับเรื่องการใช้ใบทุเรียนเทศรักษาโรคมะเร็งที่เป็นข้อสงสัยกันอยู่นั้น ปรากฏว่ามีรายงานการวิจัย ที่ทำในปี 1940 ซึ่งพบว่าทุเรียนเทศมีสาร Annonaceous acetogenins สามารถทำลายเซลล์มะเร็ง และสามารถกำจัดเชื้อราและแบคทีเรียได้ผล และนอกจากนี้ยังมีงานวิจัยของสถาบันวิจัยมะเร็งแห่งชาติสหรัอเมริกา ชี้ว่า พืชชนิดนี้สามารถใช้ในการทำลายเซลล์มะเร็งได้ถึง 12 ชนิด
วิธีการน้ำใบทุเรียนเทศ
ใช้ใบแห้ง ปริมาณ 1 ถ้วยตวง ต้มกับน้ำ 1 ลิตร ใช้ไฟอ่อน ต้มนานประมาณ 20 นาที รับประทาน วันละ 3 ถ้วยตวง ก่อนอาหารประมาณ 30 นาที
ชาหรือน้ำต้มใบทุเรียนเทศจึงเป็นอีกหนึ่งความหวังในการรักษาอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งอีกทางหนึ่งนอกเหนือจากการรักษาทางการแพทย์โดยการใช้เคมีบำบัดและการฉายแสง อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสงสัยในประสิทธิภาพที่จะต้องมีการศึกษาและติดตามผลต่อไป และในการดื่มชาชนิดนี้ควรระวังผลข้างเคียงเนื่องจากมีสรรพคุณในการลดความดันและลดระดับน้ำตาลในเลือดด้วย อาจส่งผลให้ความดันโลหิตต่ำ และมีปริมาณน้ำตาลในเลือดต่ำ ได้ นอกเหนือจากนั้นยังมีการเตือนว่าไม่ควรบริภคมากเกินไปเพราะจะทำให้ไตทำงานหนัก จึงควรดื่มแต่พอดีในปริมาณที่กำหนด
ทุเรียนเทศ รักษามะเร็ง
ทุเรียนเทศ กลายเป็นที่สนใจเป็นอย่างมากในปัจจุบันหลังจากมีข่าวว่ามีผู้ป่วยโรคมะเร็งดื่มน้ำต้มใบทุเรียนเทศแล้วสามารถหายจากอาการป่วยได้ ซึ่งเรื่องที่เป็นข่าวฮือฮาแชร์กันในโลกออนไลน์และมีสื่อกระแสหลักอื่นๆ นำเสนอข่าว อย่างไรก็ตาม ยังมีคำถามเกี่ยวกับผลและความน่าเชื่อถือของทุเรียนเทศ ว่าใช้ได้ผลในการรักษาได้จริงหรือไม่อยู่
ทุเรียนเทศคืออะไร ?
ทุเรียนเทศเป็นพืชประเภทไม้ผลในวงศ์เดียวกับน้อยหน่าและกระดังงา ผลมีลักษณะคล้ายลูกทุเรียน คือมีหนามแหลมรอบผล มีเปลือกสีเขียว เนื้อในมีสีขาว มีรสหวานอมเปรี้ยว เนื้อมีลักษณะฉ่ำน้ำ บางทีจึงเรียกว่าทุเรียนน้ำ เป็นพืชที่ขึ้นในเขตร้อน พบทั้งในอเมริกาใต้และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงในประเทศไทย พบได้ในแทบทุกภาค และมีมากในทางภาคใต้ มีชื่อเรียกต่างๆ กันไป ส่วนใหญ่ในประเทศไทยนิยมรับทานผลสด มีการนำเอาผลอ่อนไปทำแกงส้ม หรือนำไปเชื่อมรับประทาน แต่ในต่างประเทศมีการนำไปแปรรูปเป็นของขนมและของหวานอยู่ด้วยเช่นกัน เช่น ในมาเลเซียนิยมนำมาทำเป็นน้ำผลไม้สำหรับดื่ม ในเวียดนามนิยมเอาไปทำน้ำผลไม้ปั่น ในฟิลิปปินส์มีไอศกริมและสมูทตี้ที่ทำจากผลทุเรียนเทศ
ส่วนในเรื่องสรรพคุณทางยาสมุนไพร ของใบทุเรียนเทศ พบว่า ในหมู่เกาะwest Indies ในแถบอเมริกากลาง มีการใช้ใบของทุเรียนเทศเอามาทำเป็นชาสมุนไพร ดื่ม ระงับความเครียด ทำให้จิตใจสงบ ชาวบราซิลใช้ทำชาสมุนไพร รักษาอาการโรคข้อ แก้นอนไม่หลับและโรคกระเพาะ แก้เบาหวานและความดันโลหิตสูง ลดอาการอักเสบ
สำหรับเรื่องการใช้ใบทุเรียนเทศรักษาโรคมะเร็งที่เป็นข้อสงสัยกันอยู่นั้น ปรากฏว่ามีรายงานการวิจัย ที่ทำในปี 1940 ซึ่งพบว่าทุเรียนเทศมีสาร Annonaceous acetogenins สามารถทำลายเซลล์มะเร็ง และสามารถกำจัดเชื้อราและแบคทีเรียได้ผล และนอกจากนี้ยังมีงานวิจัยของสถาบันวิจัยมะเร็งแห่งชาติสหรัอเมริกา ชี้ว่า พืชชนิดนี้สามารถใช้ในการทำลายเซลล์มะเร็งได้ถึง 12 ชนิด
วิธีการน้ำใบทุเรียนเทศ
ใช้ใบแห้ง ปริมาณ 1 ถ้วยตวง ต้มกับน้ำ 1 ลิตร ใช้ไฟอ่อน ต้มนานประมาณ 20 นาที รับประทาน วันละ 3 ถ้วยตวง ก่อนอาหารประมาณ 30 นาที
ชาหรือน้ำต้มใบทุเรียนเทศจึงเป็นอีกหนึ่งความหวังในการรักษาอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งอีกทางหนึ่งนอกเหนือจากการรักษาทางการแพทย์โดยการใช้เคมีบำบัดและการฉายแสง อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสงสัยในประสิทธิภาพที่จะต้องมีการศึกษาและติดตามผลต่อไป และในการดื่มชาชนิดนี้ควรระวังผลข้างเคียงเนื่องจากมีสรรพคุณในการลดความดันและลดระดับน้ำตาลในเลือดด้วย อาจส่งผลให้ความดันโลหิตต่ำ และมีปริมาณน้ำตาลในเลือดต่ำ ได้ นอกเหนือจากนั้นยังมีการเตือนว่าไม่ควรบริภคมากเกินไปเพราะจะทำให้ไตทำงานหนัก จึงควรดื่มแต่พอดีในปริมาณที่กำหนด
