เมื่อพูดถึงโรคใกล้ตัวแล้วนั้น “ความดันต่ำ” ก็ถือเป็นอีกโรคที่หลาย ๆ คนประสบพบเจอได้เลยก็ว่าได้ กระนั้นบางคนอาจจะไม่เคยรู้จักมาก่อน อยากรู้คือโรคนี้เกิดจากอะไร ควรหรือไม่ควรกินอะไร เราได้ไปสืบค้นรายละเอียดมาให้เป็นที่เรียบร้อย ว่าแล้วก็ลองไปศึกษาทำความเข้าใจกันดีกว่า
สาเหตุของการเกิดโรคความดันต่ำนั้นคืออะไร
สำหรับสาเหตุของการเกิดโรคความดันต่ำนี้นั้นจริง ๆ ก็มีขึ้นได้หลากหลายมาก เราควรทำความเข้าใจเพื่อที่จะรับมือได้อย่างดีมีประสิทธิภาพ นั่นคือ
- ภาวะขาดน้ำ ขาดเกลือแร่ ที่มีส่วนทำให้เลือดไหลเวียนไม่ค่อยดี แล้วเลือดก็จะกลับสู่หัวใจน้อยลง เมื่อหัวใจบีบตัวลดลงก็ทำให้เกิดโรคนี้ได้
- มาจากภาวะเสียเลือดมาก ที่ทำให้เลือดหมุนเวียนเข้าสู่หัวใจไม่ทัน ก็ทำให้การสูบฉีดเลือดลดน้อยลง
ส่งผลต่อโรคได้
- ภาวะโลหิตจาง ที่จะเป็นความเข้มข้นของเลือดลดลงอันเป็นผลมาจากเม็ดเลือดแดงลดลง ซึ่งเมื่อปริมาตรภาพรวมของเลือดไม่สมดุลก็เกิดอาการของโรคได้
- เมื่ออยู่ท่าเดิมนาน ๆ เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายแบบคั่งอยู่ การที่เปลี่ยนท่ารวดเร็วเลือดก็จะไหลเวียนสู่หัวใจไม่ทัน เกิดอาการวูบ หน้ามืดได้
- ภาวะอิ่มจัดที่เรากินอาหารมากเกินไป ก็ทำให้เลือดไปเลี้ยงที่ลำไส้ ที่กระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น เลือดก็จะไหลเวียนลดน้อยลง ก็กลายเป็นอาการของโรคขึ้นได้
ป่วยโรคความดันต่ำควรกิน – ไม่ควรกินอะไรบ้าง?
ใครที่รู้ตัวว่ากำลังป่วยด้วยโรคความดันต่ำแล้วนั้นสิ่งที่ต้องศึกษาอย่างที่สุดก็คืออาหารที่ควรกิน และไม่ควรกินซึ่งมีหลากหลาย เพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาวะที่เป็นปกติ ปลอดภัย
1. สิ่งที่ควรกิน
หากจะเอ่ยถึงอาการของโรคนี้แล้วนั้นสิ่งที่ควรกินมาก ๆ ก็คือน้ำที่ต้องดื่มอย่างน้อยวันละ 6 – 8 แก้วเพื่อให้เลือดไหลเวียนได้เป็นอย่างดี กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ หรือจะเลือกอาหารที่บำรุงเลือดด้วยก็ได้เช่นกัน กระนั้นควรหาอาหารที่มีส่วนประกอบของ วิตามินบี วิตามินอี วิตามินซีให้มากขึ้นด้วย ได้จากธัญพืชต่าง ๆ รวมถึงผลไม้ – ผัก
2. สิ่งที่ไม่ควรกิน
ไม่ควรกินอาหารที่เป็นมือเดียวในปริมาณที่เยอะ ควรแบ่งกินทีละน้อย ๆ เป็นมื้อย่อย ๆ ไปเลย ลดการกินอาหารจำพวกรสหวานจัด เค็มจัด เลี่ยงอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง รวมถึงในช่วงกลางคืนไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และจำกัดปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย
สำหรับการดูแลตัวเองเมื่อป่วยความดันต่ำควรทำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะใครที่รู้ตัวว่าบางครั้งมีอาการรุนแรงควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำต่อไปจะดีกว่า ถือเป็นอีกโรคที่ควรให้ความสำคัญอย่างมาก
หน้าที่เข้าชม | 3,634,202 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,848,123 ครั้ง |
เปิดร้าน | 16 เม.ย. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 27 ส.ค. 2568 |
© ขอสงวนสิทธิ์เนื้อหาในเว็บนี้โดย บริษัท สมุนไพรท่าพระจันทร์ จำกัด ห้ามมิให้นำข้อความ รูปภาพ เนื้อหาใดๆในเว็บไซต์นี้
นำไปตีพิมพ์ หรือเผยแพร่ ก่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเห็นเราจะดำเนินการให้ถึงที่สุด