การเลือกใช้สมุนไพรปฏิเสธไม่ได้ว่ามีส่วนช่วยบำรุงรักษาร่างกายอย่างดีมีประสิทธิภาพ ทั้งยังทิ้งสารตกค้างในร่างกายน้อยมาก หรือแทบไม่มีเลย กระนั้นในการเลือกใช้งานก็มีข้อควรระวังที่ต้องรู้อยู่ด้วย อย่างใครที่ชื่นชอบ หรือต้องกินสมุนไพร “ขมิ้นอ้อย” ก็ต้องระวังไว้ด้วยเช่นกัน แต่จะระวังอย่างไร และควรกินในปริมาณเท่าไหร่ เอาเป็นว่าไปติดตามคำตอบพร้อมกันเลยดีกว่า
ขมิ้นอ้อยช่วยบำรุงร่างกาย แต่ก็ต้องใช้อย่างระวัง
ก่อนอื่นอธิบายถึงสรรพคุณของสมุนไพรชนิดนี้ให้ใครที่อาจจะยังไม่เคยรู้แล้วต้องมาใช้งานได้ทำความเข้าใจ ซึ่งขมิ้นอ้อยเป็นสมุนไพรที่ช่วยทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ออกฤทธิ์ได้ดีต่อตับ และม้าม ช่วยลดความดันเลือด ช่วยแก้อาการหอบหืดหายใจไม่ปกติ แก้อาเจียน แก้เสมหะ ช่วยบำรุงกำลังได้ดี ช่วยรักษาโรคริดสีดวงทวาร ช่วยแก้หนองใน ช่วยขับลม ย่อยง่าย แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ เป็นยาขับปัสสาวะได้ดี รักษาซีสต์ในรังไข่ของผู้หญิง แก้ระดูขาว แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ แก้หัดหลบใน แก้ไข้ครั่นเนื้อครั่นตัว แก้ฟกช้ำ บวม อักเสบ รักษาแผล ฝีได้ดี ฯลฯ และแม้เราจะต้องใช้ให้ปริมาณที่เหมาะสม ที่แบ่งออกเป็น
- นำมาใช้ภายใน เอาเหง้ามาต้มเป็นน้ำดื่มกินต้องใช้ครั้งละ 5 – 10 กรัม
- นำมาใช้ภายนอก ต้องบดเป็นผง หรือทำเป็นยาอัดเม็ดตามสูตรตำรายาเฉพาะ
แน่นอนว่ามีสิ่งที่ต้องระวังเมื่อใช้งานขมิ้นอ้อยที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพต่อร่างกายดีที่สุด นั่นคือ หากเป็นสตรีมีครรภ์ไม่ควรกินเข้าไปเลยเด็ดขาด เพราะจะมีอันตรายต่อลูกในครรภ์ได้ ซึ่งหากใครกินจะต้องอยู่ในปริมาณที่กำหนด การกินมากเกินไปไม่ได้ช่วยบำรุงร่างกายมากอย่างที่คิด แต่อาจส่งผลต่อการเกิดแผลในกระเพาะอาหารก็เป็นได้ และหากใครที่รู้ตัวว่ามีอาการแขมิ้น หรือพืชในวงศ์ อย่าง ZINGIBERACEAE ไม่ควรกินเลยไม่ว่าจะต้องการบำรุงรักษาร่างกายโรคใดก็ตาม เพราะอาจเกิดอาการแพ้ได้ ไม่ว่าจะเป็นปวดศีรษะ, คลื่นไส้, ท้องเสีย, นอนไม่หลับ ฯลฯ ขึ้นมาดื้อ ๆ ได้ หากใครใช้แล้วมีอาการเหล่านี้ให้หยุดใช้งานทันที และถ้าไม่หาย ดูรุนแรงให้รีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยทันที
อย่างไรก็ตาม นอกจากขมิ้นอ้อยจะใช้เพื่อเป็นยาสมุนไพรช่วยรักษาร่างกายแล้ว ยังสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องเทศเพื่อเป็นเครื่องปรุงอาหารหลากหลาย หรือจะเอาไปแต่งสีเป็นสีผสมอาหารที่เป็นสีเหลืองได้ ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยมากขึ้น ผุดผ่องเนียนนุ่ม รวมถึงนำไปขัดหน้า ขัดผิว แก้สิว แก้ฝ้า ลบเลือนจุดด่างดำ หรือยังสามารถนำเหง้ามาใช้เคี้ยวเพื่อดับกลิ่นปากได้ไปอีก เรียกได้ว่ามีประโยชน์ครอบคลุมมาก ๆ
หน้าที่เข้าชม | 3,634,228 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,848,149 ครั้ง |
เปิดร้าน | 16 เม.ย. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 27 ส.ค. 2568 |
© ขอสงวนสิทธิ์เนื้อหาในเว็บนี้โดย บริษัท สมุนไพรท่าพระจันทร์ จำกัด ห้ามมิให้นำข้อความ รูปภาพ เนื้อหาใดๆในเว็บไซต์นี้
นำไปตีพิมพ์ หรือเผยแพร่ ก่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเห็นเราจะดำเนินการให้ถึงที่สุด