มะขามแขก ตัวช่วยในเรื่องการขับถ่าย แต่กินมากอาจจะ...

เมื่อพูดถึงสมุนไพรที่มีส่วนช่วยให้การขับถ่าย หรือระบบทางเดินอาหารลื่นไหลมากขึ้น หนึ่งในนั้นที่เรามักจะนึกถึงเสมอก็คือ “มะขามแขก” แต่กระนั้นหากเราได้กินเข้าไปมาก ๆ มีผลข้างเคียงต่อร่างกายที่หนักสุดก็คงจะหนีไม่พ้นลำไส้ขี้เกียจขึ้นมาดื้อ ๆ ดังนั้น การกินในปริมาณที่เหมาะสม ร่วมกับใช้ตัวช่วยอื่น ๆ เพิ่มการขับถ่ายเองจึงสำคัญ

มะขามแขกกินได้ แต่อย่ากินมากถ้าไม่อยากลำไส้ขี้เกียจ

ย้ำอีกครั้งว่าเราสามารถกินมะขามแขกได้เลย เพราะมีส่วนช่วยเรื่องระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี ทั้งยังเป็นสมุนไพรที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จึงไม่ทำให้เกิดสารตกค้างในร่างกายที่เป็นอันตรายรุนแรงไปได้ ซึ่งปัจจุบันมีงานวิจัยออกมาระบุว่าสมุนไพรชนิดนี้เป็นยาถ่าย ที่จะมีสาร Sennoside A และ Sennoside B ที่มีส่วนช่วยกระตุ้นลำไส้ให้เกิดการบีบตัวเอง โดยมีการทดลองกับอาสาสมัครแล้วได้ถ่ายภาพลำไส้ใหญ่ มีความเคลื่อนไหวมากขึ้น กินแค่ครั้งแรกก็กลายเป็นยาถ่ายไปแล้ว

และด้วยประโยชน์ด้านการขับถ่ายดี ทำให้บางคนเลือกที่จะกินเป็นประจำนอกจากช่วยลดปัญหาท้องผูก ก็ยังช่วยลดน้ำหนักได้ดี ทั้งที่จริงแล้วการเลือกกินสมุนไพรชนิดนี้มีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ เพราะจะไปส่งผลทำให้ลำไส้เกิดการกระตุ้นมากและนานเกินไป จะทำให้ลำไส้เกิดความเคยชิน ทำให้เกิดการดื้อเมื่อไม่กิน แถมยังต้องกินมากขึ้นด้วยหากสลับกินบ้างไม่กินบ้าง กลายเป็นลำไส้ติดยาระบาย หรือที่เรียกว่าลำไส้ขี้เกียจนั่นเอง

ซึ่งการที่เรากลายเป็นโรคลำไส้ขี้เกียจค่อนข้างเป็นอันตรายต่อสุขภาพลำไส้ เพราะจะเป็นโรคเรื้อรังที่หากยังฝืนกินยาระบาย หรือมะขามแขกนี้ต่อไปก็จะทำให้ลำไส้ดื้อ เลิกกินยาระบายอีกต่อไปไม่ได้ หรือหากเลิกกินก็จะไม่ถ่ายและกลายเป็นโรคท้องผูกเรื้อรังโดยสมบูรณ์แบบ

อย่าพึ่งยาระบายมากเกินไป ไม่ดีต่อสุขภาพ

สิ่งสำคัญที่อยากให้ทุก ๆ คนทำเพื่อรับมือกับโรคท้องผูก โดยไม่ต้องพึงยาระบายมากเกินไป ก็คือการปรับวิธีกิน การใช้ชีวิตประจำวันของตนเอง นั่นคือ การเลือกกินผัก หรือผลไม้ที่มีกากใยมากขึ้น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดื่มน้ำให้ได้ 8 – 12 แก้วต่อวัน หรือเลือกอาหารเสริมที่ไปเพิ่มจุลินทรีย์ในลำไส้ เพิ่มกากใยทำให้ลำไส้ขับถ่ายเองได้เป็นอย่างดี ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุที่ดีที่สุด

แต่กระนั้นการกินมะขามแขกก็ยังสามารถทำได้ เพียงแต่เลือกกินในบางช่วงเวลาเท่านั้น และกินในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งจะบอกให้ว่าสมุนไพรชนิดนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องสุขภาพลำไส้เท่านั้น แต่ยังช่วยถ่ายพิษไข้ แก้ริดสีดวงทวาร ถ่ายพิษเสมหะ ลดอาการบวมน้ำ แก้อาการสะอึก ฯลฯ ซึ่งหลังจากนี้ก็หวังว่าการกินสมุนไพรชนิดนี้จะระมัดระวังมากขึ้น เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีต่อไป