รหัสสินค้า | T184 |
หมวดหมู่ | อื่นๆ |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | พร้อมส่ง |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | ******************** กรุณาเลือกชนิดสมุนไพรหัวโสมด้านล่างค่ะ ******************** |
ลงสินค้า | 4 ม.ค. 2558 |
อัพเดทล่าสุด | 27 พ.ย. 2560 |
คงเหลือ | ไม่จำกัด |
จำนวน | ชิ้น |
สั่งซื้อ สมุนไพรแบบแห้ง หัวโสม
ชื่อวิทยาศาสตร์สมุนไพรโสม : Panax quinquefolius
วงศ์ของสมุนไพรโสม : Araliaceae
ชื่ออื่นๆของสมุนไพรโสม : American Ginseng
โสมอเมริกา หรือ โสมเอี่ยเซียม
สำหรับบำรุงร่างกาย บำรุงสมอง
โสมอเมริกา มีต้นกำเนิดจากทวีปอเมริกาเหนือ เป็นโสมที่ขึ้นตามธรรมชาติ
มีการนำมาใช้ประโยชน์ยาวนานและแพร่หลาย
เป็นโสมเย็น หรือ โสมที่ช่วยเสริมธาตุ 'หยิน'
มนุษย์เกิดมาพร้อมเซลล์สมองแสน ล้านเซลล์ เซลล์สมองเหล่านี้จะมีการเจริญเติบโตและแบ่งเซลล์ให้ใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงอายุ 6 ปี หลังจากนั้น จะไม่มีการแบ่งเซลล์เพิ่มขึ้นอีก แต่จะมีการเจริญเติบโตด้วยการขยายขนาดโตขึ้น
จึงไม่แปลกที่เด็กๆจะจำ อะไรได้มาก แต่อาจจะคิดได้ไม่เท่าผู้ใหญ่ ขณะที่ผู้ใหญ่ เมื่ออายุมากขึ้นจะจำได้น้อยลง แต่มีการคิดและประมวลผลที่รวดเร็วและเฉียบคมขึ้น
ความแตกต่างที่เกิด ขึ้นนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการเชื่อมโยงของเซลล์สมองส่วนต่างๆและสิ่งที่เรียกว่ารอยหยัก ในสมอง ความรู้ในทางการแพทย์ยืนยันชัดเจนว่า เซลล์สมองจะอยู่กันแบบเชื่อมโยง ที่ไม่ใช่การเชื่อมโยงเพียงจุดเดียว แต่จะมีการเชื่อมโยงแตกแขนงไปหลายส่วนหลายจุด ยิ่งเราใช้สมองมากเท่าไหร่ การแตกแขนงและเครือข่ายของสมองจะยิ่งเยอะขึ้น ส่งผลให้รอยหยักในสมองเพิ่มขึ้น ทำให้เราสามารถคิดวิเคราะห์ได้รวดเร็ว แม่นยำฉับไวมากขึ้น
นอกจากการออกกำลังสมองฝึกฝนเพิ่มรอยหยักให้สมอง ด้วยการขยันหมั่นใช้ความคิด โดยเฉพาะความคิดสร้างสรรค์ที่มีส่วนช่วยกระตุ้นสมองให้ปรับตัวและทำงานมี ประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น การหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่ทำลายสมอง เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดแล้ว การรับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยบำรุงสมองก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วย พัฒนาศักยภาพและกระตุ้นการทำงานของสมองให้ดีขึ้นได้
มีงานวิจัยมาก มายพบว่า สารอาหารบางชนิดมีผลต่อระบบการทำงานของสมองโดยตรง เช่น สารอะพิจีนิน (Apigenin) ในดอกคาโมมายล์ ที่มีส่วนทำให้สมองคลายความอ่อนล้า คลายกังวล ทำให้รู้สึกสงบ ช่วยปรับสมดุล และช่วยในการนอนหลับ
นอกจากนี้ ยังมีการวิจัยเกี่ยวกับสารชนิดหนึ่งที่พบมากใน “โสม” คือ จินเซนโนไซด์ (ginsenoside) มีการศึกษาทางเภสัชวิทยา พบว่า สารจินเซนโนไซด์นี้ มีผลต่อการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง มีส่วนช่วยเสริมการทำงานของสารสื่อประสาทให้สมองเชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง เซลล์ต่อเซลล์ได้ดี และมีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ
มีงานวิจัยเชิง ทดลองในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าผู้ที่ได้รับสารจินเซนโนไซด์เข้าสู่ร่างกาย จะมีความจำขณะที่ใช้งานดีขึ้น กระบวนการคิด ตัดสินใจและวิเคราะห์ข้อมูลในระยะสั้นรวดเร็วขึ้นจนถึง 6 ชั่วโมงหลังรับประทานสารนี้
ปัจจุบันมีการเพาะปลูกโสมกันทั่วไป ทั้งในประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลี รัสเซีย อินเดีย สหรัฐอเมริกา และแคนาดา ส่วนจินเซนโนไซด์เป็นสารธรรมชาติที่มีเหมือนกันหมดในโสมทุกสายพันธุ์ แตกต่างกันที่โครงสร้างทางเคมี ปริมาณ สัดส่วนและคุณสมบัติในโสมแต่ละสายพันธุ์
โสมอเมริกา หรือ American ginseng เป็นโสมที่มีงานวิจัย พบว่ามีผลเกี่ยวข้องกับการเชื่อมโยงการทำงานของระบบประสาทในสมองมากที่สุด ด้วยอนุพันธ์หลักของจินเซนโนไซด์ที่เกี่ยวข้องกับสมอง คือ Rb1, Re และ Rd
ผลการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายฉบับ ยืนยันตรงกันว่า สารจินเซนโนไซด์ที่สกัดจากโสมอเมริกาให้ผลต่ออวัยวะและระบบต่างๆของร่างกายหลายส่วน เช่น เสริมการทำงานของสารสื่อประสาทในสมองและระบบประสาทส่วนกลาง ส่งผลต่อการเรียนรู้และจดจำ ทำให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างเซลล์ต่อเซลล์ของระบบประสาทในสมองให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมทั้งช่วยให้มีกระบวนการคิดและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างฉับไว มีการจดจำได้ดีขึ้น รวมถึงมีฤทธิ์ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและช่วยปกป้องเซลล์ประสาทด้วย
สมองถือเป็นอวัยวะสำคัญ และเป็นศูนย์กลางของระบบสั่งการ คนเราต้องใช้สมองทุกวัน การรู้จักบำรุงสุขภาพสมองด้วยอาหารที่ดีมีประโยชน์ ออกกำลังและผ่อนคลายสมองอย่างสมดุล จะช่วยให้การเสื่อมของเซลล์สมองช้าลงและเรายังสามารถใช้สมองในการคิดได้เร็ว วิเคราะห์ได้ตรงจุด และประมวลผลได้อย่างฉับไว ทำให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ได้อย่างเต็มที่
สรรพคุณของโสม:
-มีสารประกอบสำคัญ คือ จินซีโนไซด์ (ginsenosides) ช่วยบำรุงให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรงมากขึ้น
-มีสาร Adaptogens ซึ่งมีคุณสมบัติลดความเครียด ช่วยปรับสภาพร่างกายและจิตใจให้ทนต่อภาวะต่างๆ ได้มากขึ้น
-สารสกัดจากโสมทำให้ตับอ่อนหลั่งอินซูลินออกมาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น
-เสริมสมรรถภาพทางเพศ
-ช่วยบำรุงกระเพาะอาหารและม้าม
-บำบัดโรคโลหิตจาง และเลือดลมผิดปกติได้ผลดี
-บำรุงปอดหัวใจ และไต ช่วยเพิ่มความสมดุลให้กับของเหลวและขับความร้อนส่วนเกินออกจากร่างกาย
-สามารถรักษาอาการไอเป็นเสมหะปนเลือด ภาวะหายใจไม่อิ่ม อ่อนเพลีย ร้อนในกระหายน้ำ และความผิดปกติทางอารมณ์
โสม มีองค์ประกอบทางเคมีที่ซับซ้อน ที่สำคัญเป็นกลุ่มสารประกอบอินทรีย์ในกลุ่มซาโพนิน (saponin) อันมีชื่อเรียกรวมๆ กันว่า จินเซโนไซด์ (ginsenoside) และสารประกอบน้ำตาลเชิงซ้อน เป็นองค์ประกอบหลักที่แสดงฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
โสมมีสรรพคุณที่เป้นประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง ที่สำคัญได้แก่
1.โสมช่วยเพิ่มสมรรถนะในการทำงานของร่างกายให้สูงขึ้น
เนื่องจากโสมมีคุณสมบัติในการต้านความเมื่อยล้า อาจด้วยกลไกร่วมกันหลายๆ อย่าง เช่น การเพิ่มการดูดซึมออกซิเจนของผนังเซลล์ เซลล์จึงสามารถสร้างพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ของเสียที่เกิดจากการเผาผลาญของร่างกาย โดยเฉพาะกรดแล็กติก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของความอ่อนล้าจะลดลง ทำให้ร่างกายมีพลังงานสะสมมากขึ้น โสมยังช่วยปรับการเต้นของหัวใจให้กลับสู่ภาวะปรกติเร็วขึ้น ร่างกายจึงเหนื่อยช้าลง มีความอดทนต่อการทำงานมากขึ้น และด้วยสรรพคุณดังกล่าว โสมจึงช่วยให้ร่างกายของผู้สูงอายุทำงานได้ดีขึ้น รวมทั้งช่วยฟื้นฟูุสมรรถภาพของผู้ป่วยในระยะพักฟื้นให้คืนสู่ภาวะปรกติได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่า โสมมีผลกระตุ้นสมรรถภาพทางเพศด้วย
2.โสมมีคุณสมบัติต่อต้านความเครียด
ช่วยปรับร่างกายและจิตใจให้ทนต่อความกดดันจากภายนอก โดยการกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนที่มีผลป้องกันและลดความเครียดจากต่อมใต้สมอง รวมทั้งมีฤทธิ์ช่วยให้คลายความวิตกกังวลได้ด้วย
3.โสมมีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง
ทำให้ผู้บริโภครู้สึกคึกคัก มีชีวิตชีวาและกระปี้กระเปร่า โดยที่ไม่ก่อให้เกิดการอ่อนเพลียหรืออ่อนล้าตามมา เหมือนยาที่มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางอื่นๆ เนื่องจากโสมมีกลไกในการแสดงฤทธิ์ที่แตกต่างออกไป
4.โสมมีฤทธิ์เพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
โดยการเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งเป็นผลจากการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแบบไม่เฉพาะเจาะจง มีรายงานว่า หลังกินโสมจะมีการเพิ่มของปริมาณนิวโทรฟิล (neutrophil) และเม็ดเลือดขาวบางชนิด ซึ่งผลนี้เกี่ยวข้องอย่างแยกไม่ออกกับสรรพคุณต้นมะเร็งของโสม
5.โสมมีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด
โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปรกติ ด้วยการกระตุ้นต่อมในตับให้หลั่งฮอร์โมนอินซูลินออกมาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปรกติ ตัวยาสำคัญในโสมเอง คือ จินเซโนไซด์ บางชนิดมีฤทธิ์เหมือนอินซูลิน จึงสามารถช่วยผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ ตั้งแต่ทำให้สามารถลดขนาดการใช้อินซูลินจากภายนอก จนกระทั่งรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานบางคนให้หายขาดได้
6.โสมช่วยชะลอความแก่
โดยการที่โสมแสดงฤทธิ์ทำลายอนุมูลอิสระของออกซิเจน ซึ่งเกิดขึ้นในการเผาผลาญไขมัน อนุมูลอิสระนี้มีอานุภาพทำลายเนื้อเยื่อต่างๆ ให้เสื่อมสลายลงก่อนเวลาอันสมควร และเชื่อว่าเป็นผลให้เกิดความแก่ ผลอันนี้เองเมื่อร่วมกับคุณสมบัติของโสมในการปรับสภาพร่างกายและจิตใจให้ทนต่อความกดดัน จึงเชื่อว่าจะช่วยเสริมฤทธิ์กัน ทำให้โสมมีสรรพคุณชะลอความแก่ได้
หน้าที่เข้าชม | 3,634,228 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,848,149 ครั้ง |
เปิดร้าน | 16 เม.ย. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 27 ส.ค. 2568 |
© ขอสงวนสิทธิ์เนื้อหาในเว็บนี้โดย บริษัท สมุนไพรท่าพระจันทร์ จำกัด ห้ามมิให้นำข้อความ รูปภาพ เนื้อหาใดๆในเว็บไซต์นี้
นำไปตีพิมพ์ หรือเผยแพร่ ก่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบเห็นเราจะดำเนินการให้ถึงที่สุด