อาการเบื้องต้นและโรคแทรกซ้อนฉับพลันที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยเบาหวาน

บางคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่าตัวเองกำลังเข้าข่ายผู้ป่วยโรคเบาหวานทำให้มีความเสี่ยงพฤติกรรมต่าง ๆ ที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ กระนั้นเราไม่รอช้าที่จะพาทุก ๆ คนไปลองสังเกตอาหารเบื้องต้น รวมถึงทำความเข้าใจถึงโรคแทรกซ้อนที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ซึ่งจะเป็นลักษณะอย่างไรบ้างนั้น ใครอยากรู้ก็ไปติดตามพร้อมกันได้เลย

อาการของโรคเบาหวานที่พบได้บ่อยที่สุด

สำหรับอาการของโรคเบาหวานที่พบได้บ่อยที่สุดนี้จัดอยู่ในชนิดที่ 2 ที่ไม่ต้องพึ่งอินซูลิน กระนั้นอาการเบื้องต้นเหล่านี้อาจจะเจอทั้งหมดในบางคน หรือมีบางอาการก็ย่อมเกิดขึ้นได้เช่นกัน เนื่องจากชนิดของโรคนี้อาจใช้เวลานานถึงหลายปีก่อนที่ผู้ป่วยจะมีอาการแสดงออกมาชัดเจน คือ

-   น้ำหนักตัวลดลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และไม่ทราบสาเหตุ

-   ปัสสาวะบ่อยมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงกลางคืนที่หลับไปแล้วจู่ ๆ ก็ตื่นมาเข้าห้องน้ำบ่อยครั้ง

-   หิวน้ำบ่อยมากขึ้นจากแต่ก่อน

-   มีอาการหิวอยู่บ่อย ๆ และกินเยอะ กินจุมากขึ้น

-   เหงื่อออกง่ายมาก รู้สึกอ่อนเพลียอยู่ตลอด

-   เวลาที่ร่างกายมีแผล แผลนั้น ๆ ก็จะหายได้ช้ากว่าปกติ

-   สายตาพล่ามัว มองไม่ค่อยชัดเจนไม่ค่อยเห็นเหมือนแต่ก่อน

-   มีอาการป่วยบ่อย หรือติดเชื้อบ่อย ๆ

-   ผิวหนังเข้มมากขึ้น โดยเฉพาะที่รักแร้ คอ หรือมีหน้าท้องแตกลาย

-   มีอาการชา เจ็บ หรือรู้สึกผิดปกติขึ้นมาดื้อ ๆ อย่าง ชาที่ปลายนิ้วมือหรือนิ้วเท้า

โรคแทรกซ้อนที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับผู้ป่วย

สำหรับโรคแทรกซ้อนนั้นแบ่งออกเป็นแบบฉับพลันที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เมื่อป่วยด้วยโรคเบาหวานแล้วนั้น จะพบได้โดยเกิดรวดเร็ว รุนแรง และจำเป็นต้องรักษาอย่างเร่งด่วน นั่นคือ การติดเชื้อ ภาวะหมดสติจากระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ และภาวะหมดสติจากน้ำตาลสูงมาก หรืออาจมี – ไม่มีกรดคีโตนคั่งในเลือด โดยที่ต้องรีบไปโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์ให้ทำการตรวจวินิจฉัยและรักษาต่อไป และโรคแทรกซ้อนแบบเรื้อรังที่เกิดขึ้นหลากจากป่วยด้วยโรคนี้มานาน ๆ โดยที่หลอดเลือดทั่วร่างกายเกิดการตับแข็ง และอุดตัน นั่นคือ

-   5 เท่าของคนทั่วไปมีอาการหลอดเลือดในสมองอุดตัน เป็นโรคอัมพาต

-   2 – 4 เท่าของคนทั่วไปมีอาการหลอดเลือดหัวใจตีบ เป็นโรคหัวใจ

-   25 เท่าของคนทั่วไปมีอาการตา หรือเลนส์ตา จอประสาทตาเสื่อม เกิดตาบอดได้

-   20 เท่าของคนทั่วไปมีโอกาสหลอดเลือดไตเสื่อม เกิดเป็นโรคไตวายขั้นสุดท้าย

กระนั้นเราสามารถควบคุมดูแลตัวเองไม่ทำให้อาการของโรคเบาหวาน รวมถึงความเสี่ยงเกิดโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ ด้วยการควบคุมอาหารให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ตรวจสุขภาพน้ำตาลในเลือดอย่างน้อยทุก 1 – 3 ปี หรือจะให้สมุนไพรไทยที่มีส่วนช่วยบำรุงร่างกายช่วยด้วยในปริมาณที่เหมาะสมก็ได้เช่นกัน