ใช้ “ขิง” ต้องระวัง ถ้าไม่อยากเกิดปัญหามากกว่าได้ผลดี
ต้องบอกเลยว่า “ขิง” เป็นสมุนไพรที่รวบรวมสรรพคุณบรรเทาอาการต่าง ๆ ในร่างกายได้ดี ไม่ว่าจะ แก้ร้อนใน แก้อักเสบ หรือช่วยให้การย่อยอาหารเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น กระนั้นก็ไม่อาจมองข้ามถึงข้อควรระวังในการใช้งานไปได้ และเพื่อให้การใช้งานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เรามีรายละเอียดที่น่าสนใจมาบอกต่อ ตามไปดูพร้อมกันเลยดีกว่า
ใช้ “ขิง” ต้องระวัง ถ้าไม่อยากเกิดปัญหามากกว่าได้ผลดี
1. หญิงตั้งครรภ์ควรระวัง
ใครที่เป็นหญิงตั้งครรภ์อย่าชะล่าใจเห็นว่าสมุนไพรไทยชนิดนี้มีสรรพคุณมากแล้วจะเอามากินช่วยบำรุงร่างกาย เพราะสารที่มีอยู่นั้นส่งผลกระทบต่อลูกในครรภ์ได้ อาจเกิดปัญหาต่อลูกที่คาดไม่ถึง ซึ่งหากก่อนหน้านี้ใครกินอยู่ก็งดไปก่อนเลยดีที่สุด
2. เกิดแผลร้อนในในปากได้
ด้วยความที่ขิงเป็นสมุนไพรที่ออกฤทธิ์ร้อน ปริมาณแต่น้อยก็จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่หากกินในปริมาณที่มากเกินไป ก็จะทำให้ช่องปากเกิดการอักเสบ จนกลายเป็นร้อนในไปได้ ซึ่งข้อควรระวังที่ต้องรู้เอาไว้มาก ๆ ก็คือไม่ควรกินติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะฤทธิ์ร้อนจะทำให้เกิดแผลในช่องปากของเราได้ง่ายมากขึ้น และถ้าเป็นขึ้นมาจริง ๆ กินอาหารดื่มน้ำลำบากแน่งานนี้
3. ไม่เหมาะกับบางกลุ่ม
เพราะสมุนไพรชนิดนี้มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา คนบางกลุ่มจึงไม่สามารถกินได้ เพราะบุคคลเหล่านี้จะเกิดอันตรายต่อร่างกาย เช่น ผู้ที่มีประวัติเกี่ยวกับนิ่วออกชาเลต (Oxalates) หรือผู้ที่มีอาการเสียดท้องอยู่บ่อย ๆ ผู้ที่ใช้ยาลดความดัน หรือมีความดันในเลือดต่ำ จริง ๆ กินได้แต่ต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะไม่อย่างนั้นจะส่งผลต่อโรค และอาการที่เป็นอยู่ได้นั่นเอง
4. ใช้ยาสลายลิ่มเลือดไม่ควรกิน
สุดท้ายก็คือใครก็ตามที่ใช้ยาสลายลิ่มเลือดต่อร่างกายอยู่ไม่ควรกินเลย เพราะในขิงนั้นจะมีสรรพคุณที่ช่วยต้านการสลายตัวของเลือด ดังนั้น การรักษาในบางอาการก็ควรที่จะให้แพทย์เป็นผู้แนะนำ หรือควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้งเพื่อให้เกิดความปลอดภัยอย่างที่สุด ไม่อย่างนั้นจากที่จะใช้เพื่อรักษาอาจเกิดปัญหาขึ้นมาได้
การกินขิงนั้นสามารถใช้ได้ทั้งแบบเม็ด แบบผง แบบน้ำ หรือใครจะกินแบบสด ๆ ก็ได้เช่นกัน ซึ่งจะช่วยสร้างประโยชน์ให้เราได้อย่างดี รักษาและบรรเทาอาการต่าง ๆ มากมาย แต่ก็ไม่ควรกินในปริมาณที่มากเกินไป หรือหากใครเข้าข่ายที่ไม่สามารถกินได้ก็ควรเลี่ยง เพื่อลดความเสี่ยงเกิดปัญหาต่อสุขภาพกลายเป็นโทษมากกว่าที่จะได้รับผลประโยชน์ต่อตัวเอง และถ้าจะให้แน่ใจปรึกษาแพทย์ เภสัชกรก่อนใช้ดีที่สุด
