มังคุด ราชินีผลไม้และเรื่องที่ต้องระวัง

การเลือกรับประทานผลไม้ในปริมาณที่เหมาะสมถือเป็นความสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ เพราะไม่อย่างนั้นจากที่จะสร้างผลดีกลับเป็นภัยต่อสุขภาพขึ้นมาดื้อ ๆ อย่าง “มังคุด” ราชินีผลไม้ที่เราก็ควรต้องรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมเช่นกัน แต่จะมีคำแนะนำอย่างไรบ้าง? แน่นอนว่าการศึกษาอย่างละเอียดช่วยสร้างความเข้าใจ พร้อมนำไปปรับใช้ได้จริง

คำแนะนำในการรับประทาน “มังคุด” เพื่อความปลอดภัย

สำหรับปริมาณที่เหมาะสมของการเลือกรับประทานมังคุดนั้น จริง ๆ ก็มีปัจจัยอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น อายุ หรือปัญหาสุขภาพที่มีอยู่แล้วของผู้ที่สนใจ กระนั้นก็มีคำแนะนำเพิ่มเติมมาให้ได้ศึกษา อย่าง

-    หญิงมีครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมลูกไม่แนะนำให้รับประทาน เพราะมีโอกาสเสี่ยงทั้งแม่และลูกได้

-    ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่ต้องรับประมาณอย่างพอดี ไม่อย่างนั้นจะมีความเสี่ยงปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติได้

-    ผู้ที่กำลังจะเข้ารับการรักษารังสีบำบัด หรือเคมีบำบัดในกลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็ง

-    ผู้ที่มีสภาวะเลือดออกแบบผิดปกติ ไม่ควรรับประทาน เพราะจะมีผลข้างเคียงที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้ามากกว่าคนปกติทั่วไป

-    ผู้ที่อยู่ในสภาวะลำไส้อักเสบ ด้วยผลวิจัยที่ได้ทดลองกับสัตว์มาแล้ว พบว่ามีโอกาสที่จะไปกระตุ้นให้อาการอักเสบของลำไส้เพิ่มสูงขึ้น

-    ผู้ที่ต้องการเข้ารับการรักษาผ่าตัด ต้องหยุดการรับประทานมังคุดก่อนที่จะผ่าตัด 2 อาทิตย์ (14 วัน) เพราะอย่างที่บอกไปคือจะส่งผลให้เลือดแข็งตัวช้า

-    ผู้ที่ได้รับยาเฉพาะกลุ่ม อย่าง ยาทาโครลิมัส และไซโคลสปอริน ที่อยู่ในกลุ่มยาแคลซินูรินอินฮิบิเตอร์ และยาที่ทำปฏิกิริยาต่อไซโตโครมพี 450

ทั้งนี้ การใช้งานมังคุดไม่ได้มีแค่ผลไม้เท่านั้น คุณยังสามารถใช้สารสกัด หรือการแปรรูปอื่น ๆ ที่ได้เป็นแบบอัดเม็ด ครีม สบู่ ยาสระผม ฯลฯ แน่นอนว่าจำเป็นต้องเลือกใช้ในปริมาณที่เหมาะสมอีกเช่นกัน เพราะไม่อย่างนั้นก็มีโอกาสที่จะเกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ดังที่เราแนะนำไปข้างต้น ส่วนใครเป็นกังวลถึงปริมาณที่จะใช้งาน แนะนำว่าให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบความต้องการของร่างกายที่สมควรจะได้รับต่อไป

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเลือกใช้งานมังคุดราชินีผลไม้สุดพิเศษจะเกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ ไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง ซึ่งผลไม้ชนิดนี้ทั้งวิตามินซี สารแทนนิน สารแซนโทนมากถึง 68 ชนิด ยกตัวอย่าง การ์ทานิน แอลฟาแมงโกสติน การ์ซิโนนอี เบต้าแมงโกสติน หรือแกมมาแมงโกสติน เป็นต้น แน่นอนว่าด้วยสารที่มีหลากหลายประโยชน์และสรรพคุณที่มีจึงต้องบอกว่าค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวช่วยป้องกัน ดูแลรักษาโรคมะเร็ง รักษาอาการติดเชื้อที่ผิวหนังแห้ง ต้านการอักเสบ พร้อมช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้ดี หากรู้ตัวว่าเข้าข่ายปัญหาสุขภาพเลือกใช้งานได้ แต่ต้องไม่ลืมให้อยู่ในคำแนะนำ – ข้อควรระวังเหล่านี้