5 สมุนไพรช่วยลดความดัน และวิธีกินที่เหมาะสม

ปัจจุบันต้องยอมรับว่าผู้ป่วยความดันโลหิตสูงมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งก็เป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่าง ๆ ตามมาได้ และหนึ่งในวิธีช่วยลดความเสี่ยงช่วยให้อาการไม่กำเริบควบคู่กับการใช้ยาแผนปัจจุบันก็คือการกินสมุนไพรไทยต่าง ๆ ซึ่งวันนี้เราก็จะพาทุก ๆ คนไปศึกษาทำความรู้จักที่นอกจากสรรพคุณแล้วก็คือวิธีกินที่แต่ละชนิดที่ต่างกันออกไป

5 สมุนไพรช่วยลดความดัน และวิธีกินที่เหมาะสม

1. ขิง

เป็นสมุนไพรที่ช่วยปัญหาสุขภาพนี้ได้ดี เพราะจะไปกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยลดสภาวะไม่ให้กำเริบ ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดของข้อต่อต่าง ๆ ลดอาการอัลไซเมอร์ โดยวิธีการกินนั้น คุณสามารถนำขิงสดไปประกอบอาหารได้เลย หรือจะเอาไปต้มน้ำดื่มอุ่น ๆ ก็ได้ ชุ่มคอบรรเทาอาการเจ็บคอ หาซื้อง่ายมีขายตามท้องตลาดทั่วไป

2. กระเจี๊ยบแดง

เป็นอีกสมุนไพรความดันที่ช่วยได้ดี ไม่ทำให้อาการของโรคกำเริบสูง ทั้งยังช่วยลดคอเลสเตอรอล ลดไขมันในเส้นเลือด แก้เส้นเลือดตีบตันไปอีก โดยวิธีการกินนั้นให้เอาดอกกระเจี๊ยบแดงมาตากแห้งไว้ 3 กรัม แล้วก็ลงในน้ำเดือดดื่มกินครั้งละ 1 แก้ว 3 ครั้งต่อวัน นาน 7 วันช่วยให้อาการดีขึ้นได้

3. มะกรูด

เป็นอีกสมุนไพรที่ช่วยได้ดี เพราะนอกจากช่วยลดอาการที่ว่านี้แล้ว ก็ยังสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย บำรุงหัวใจ ผ่อนคลายความเครียด ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียได้ดี วิธีการกินนั้นจริง ๆ แล้วเราสามารถนำมะกรูดมาประกอบอาหารได้เลย เป็นการแต่งกลิ่นหอม ๆ หรือจะเอาใบมะกรูด 7 – 10 ใบมาต้มก็ได้ แนะนำให้ดื่มเช้า – เย็น และก่อนนอน จะช่วยรักษาอาการได้ดี

4. ขึ้นฉ่าย

มีส่วนในการช่วยลดความดันได้ดี รวมถึงโรคอื่น ๆ ที่หลายคนอาจจะมีอยู่ด้วย อย่างคอเลสเตอรอลที่ช่วยลดได้ หรือยับยั้งการเกิดมะเร็งต่าง ๆ โดยวิธีการกินนั้นให้นำมาหั่นประกอบเมนูอาหาร เช่น ก๋วยเตี๋ยว ยำวุ้นเส้น ลาบ แกงจืด หรือเมนูอื่น ๆ

5. ตะไคร้

นอกจากมะกรูดแล้วตะไคร้ก็ช่วยได้ดีเช่นกัน นอกจากอาการนี้แล้ว ยังช่วยเรื่องการล้างสิ่งผิดปกติออกมาทางปัสสาวะ หรือป้องกันโรคมะเร็งได้ดี วิธีการกินนั้นให้เอามาประกอบอาหารได้เลยตามต้องการ จะยำตะไคร้ หรือต้มยำ ต้มใส่น้ำตาลกลิ่นหอมชุ่มคอ ฯลฯ

เราทุกคนมีโอกาสที่จะป่วยเป็นโรคความดันสูงกันทั้งสิ้น แต่ก็ไม่ต้องวิตกกังวลไปเพราะเราสามารถดูแลหรือรักษาได้อย่างดีด้วยสมุนไพรชั้นนำที่หาซื้อได้ง่าย ใช้ร่วมกับยาแผนปัจจุบันได้ตามต้องการ ไม่เกิดสารตกค้าง กระนั้นก็ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมด้วย เพราะหากกินในปริมาณที่มากเกินไปจากดีจะกลายเป็นร้ายได้ด้วยเช่นกัน