“มะขามแขก” คุณประโยชน์ที่คุณ อาจไม่เคยรู้
“มะขามแขก” เป็นอีกสมุนไพรที่หลาย ๆ คนคงจะคุ้นหูกันดี แน่นอนว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายของเราไม่น้อยเลยทีเดียว กระนั้นอาจมีบางคนที่คุ้นชื่อแต่ยังไม่เคยรู้มาก่อนว่าช่วยเรื่องอะไรต่อร่างกายบ้าง เราไม่รอช้ารีบพาทุก ๆ คนไปทำความรู้จักอย่างหมดเปลือกผ่านบทความนี้ ว่าแล้วก็ตามเรามาให้ไวเลยเชียว
ประโยชน์ของมะขามแขกมีส่งผลต่อร่างกาย
1. ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น
ใครที่ท้องผูก หรือนาน ๆ ถ่ายทีต้องลองกินมะขามแขกกันหน่อยแล้ว เพราะมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ ที่ได้อนุพันธ์ของแอนโดรน โดยที่ลำไส้จะดูดซึม กระตุ้นปมประสาทไขกระดูกหดในลำไส้ใหญ่ทำให้ขับถ่ายได้ดีมากขึ้น จึงทำให้หลายคนอาจนำมาใช้เป็นตัวช่วยลดน้ำหนัก
2. ช่วยห้ามเลือดในลำไส้
สารสกัดที่ชื่อไกลโคไซด์ที่รวมกับสารในสมุนไพรชนิดนี้อื่น ๆ รวมตัวกันทำให้อาการตกเลือดภายในลำไส้ และกระเพาะอาหารดีมากขึ้น ช่วยเพิ่มเกล็ดเลือดและลดระยะเวลาการแข็งตัวของลิ่มเลือดอุดตันได้ดี เพิ่มระยะการสร้างพลาสมาใหม่
3. ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย
มะขามแขกมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี พร้อมกำจัดเชื้อโรคในลำไส้ให้ออกไปอย่างหมดจด ขับสารพิษ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วให้หลุดออกอย่างง่ายดาย
4. ช่วยลดอาการบวม
ด้วยความที่ออกฤทธิ์ขับของเสีย หรือทำให้ร่างกายได้ขับถ่ายออกได้มากขึ้น อาการบวมน้ำที่เป็นอยู่จึงมีความสัมพันธ์กันและลดลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ หรือใครที่เป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง ตับ หรือม้ามเสียหายระบายความชื้นของน้ำออกได้ไม่ดี แนะนำว่ากินแล้วจะช่วยได้จริง
5. ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
สุดท้ายคือประโยชน์ที่ไม่อาจมองข้ามไปได้โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ชาวออฟฟิศอาจกำลังประสบปัญหาป่วยออฟฟิศซินโดรม แนะนำว่าใช้มะขามแขกช่วยได้ เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อที่จึง ๆ ผ่อนคลายมากขึ้น เพราะไปช่วยปลดล็อคปลายประสาทที่หดเกร็งได้เป็นอย่างดี นอกจากกล้ามเนื้อมัดต่าง ๆ แล้ว ก็ยังช่วยฟื้นฟูการบีบตัวของลำไส้
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อระวังในการใช้งานที่ต้องรู้ด้วยเช่นกัน นั่นคือ ไม่แนะนำให้ใช้กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี และไม่เหมาะสมกับสตรีมีครรภ์ หรือคนที่กำลังให้นมลูก รวมถึงมีประจำเดือน และด้วยความที่มะขามแขกมีฤทธิ์ในการทำให้ลำไส้บีบเกร็งตัวเอง ใครที่ธาตุเบา มีปัญหาลำไส้อุดตัน ท้องเสียหาย ลำไส้ส่วนล่างอักเสบ หรือมักจะปวดท้องบ่อยมากแบบที่ไม่ทราบสาเหตุ ไม่แนะนำให้เลือกกินด้วยเช่นกัน ถ้าจะใช้จริง ๆ แนะนำว่าให้ใช้ก่อนนอน เพราะการออกฤทธิ์จะเกิดขึ้นภายหลังกินไปแล้ว 8 – 10 ชั่วโมง
